จิตเป็นอิสระโดยพระกรรมฐาน

จิตเป็นอิสระโดยพระกรรมฐาน (ตอนที่ ๓) จบ

ส่งศรี รุ่งถาวรวงศ์

ที่มา : หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ พระธรรมสิงหบุราจารย์ เล่มที่ ๒๕ หน้า ๑๑๙ – ๑๒๖

หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้ไปเพียรอีก ๑๐ วัน ขณะกำหนดอิริยาบถย่อยใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ได้เห็น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์เป็นเพียงเครื่องระลึกของสติเท่านั้นเอง เห็นทุกอย่างเป็นสมมุติบัญญัติอย่างแน่นอน

ข้าพเจ้าและครอบครัวขอน้อมกราบพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูง ที่หลวงพ่อเมตตาครอบครัวของข้าพเจ้าตลอดมา มีหลวงพ่อเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในกรรมฐาน สอนสติปัฏฐานสี่ เรื่องของกาย เวทนา จิต และธรรม และสอนการใช้ชีวิตให้ลูก ๆ ทุกคนได้เดินทางตรง เป็นทางสายเอก ไม่เสียเวลาของชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และบารมีธรรมของพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ บุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำดีแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันวันนี้ ในทาน ศีล และภาวนา ข้าพเจ้าขอน้อมถวายพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขอหลวงพ่อมีแต่ความเกษมสำราญทั้งกายและใจ ปราศจากโรคาพยาธิแผ้วพาน มีอายุยืนนาน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ศิษยานุศิษย์ตราบนานเท่านาน เทอญ

ส่งศรี รุ่งถาวรวงศ์

จิตเป็นอิสระโดยพระกรรมฐาน (ตอนที่ ๒)

ส่งศรี รุ่งถาวรวงศ์

ที่มา : หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ พระธรรมสิงหบุราจารย์ เล่มที่ ๒๕ หน้า ๑๑๙ – ๑๒๖

ข้าพเจ้าจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เมื่ออายุ ๑๙ ปี ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีจึงไม่ได้เรียนต่อ ต้องออกมาเข็นรถขายของ เพื่อน ๆ ได้เรียนกันหมด ข้าพเจ้าจึงไม่มีเงินเรียนทางโลกเหมือนเพื่อน จึงขอเรียนวิชากรรมฐานที่หลวงพ่อสอนตอนนี้ให้ถึงที่สุด

ข้าพเจ้ามีความทุกข์มากทั้งกายและใจ เกี่ยวกับฐานะการเงินของครอบครัว จากการได้ฟังหลวงพ่อเทศน์ ข้าพเจ้าตั้งใจเป็นคนดี กตัญญูกตเวฑิตาต่อพ่อแม่ และยอมชดใช้กรรม พร้อมกับรีบเร่งทำความดีในทาน ศีล และภาวนา โดยไม่หยุดหย่อน (เพิ่มเติม…)

จิตเป็นอิสระโดยพระกรรมฐาน (ตอนที่ ๑)

ส่งศรี  รุ่งถาวรวงศ์

ที่มา : หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ พระธรรมสิงหบุราจารย์ เล่มที่ ๒๕ หน้า ๑๑๙ – ๑๒๖

————————————————————————————————

ข้าพเจ้าชื่อ ส่งศรี รุ่งถาวรวงศ์ อายุ ๔๓ ปี เมื่อเป็นเด็กชอบอ่านหนังสือธรรมะและฟังเทศน์มาก ได้มีโอกาสมาฟังหลวงพ่อเทศน์ทุกเดือน

หลวงพ่อสอนกรรมฐานง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ว่า

๑. ให้มีสติปักไปในฐานกาย กายจะหันซ้ายแลขวา จะคู้แขนเหยียดขา ให้มีสติกำหนดไว้

๒. ให้มีสติปักในฐานเวทนา จะสุขทุกข์หรือเฉย ๆ ทางกายและใจ ให้มีสติกำหนดไว้

๓. ให้มีสติปักในฐานจิต จิตเกิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้มีสติกำหนดไว้

๔. ให้มีสติปักในฐานธรรม กุศล อกุศล อะไรเกิด ให้มีสติกำหนดไว้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าขาดสติกำหนด  ชอบเกิดขึ้นเป็นโลภะ ตายขณะนั้นไปเป็นเปรตและอสุรกาย ไม่ชอบเป็นโทสะ ตายขณะนั้นไปลงนรก ขาดสติกำหนดเป็นโมหะ ตายขณะนั้นเป็นสัตว์เดรัจฉาน (เพิ่มเติม…)